เมื่อกระบะคันโปรดของคุณ ไม่สามารถบรรทุกสัมภาระได้มากเหมือนที่ใจคิด เมื่อขนสิ่งของต่างๆ ขึ้นรถ ก็กังวลว่าสัมภาระจะได้รับความเสียหาย เพราะถูกอัดแน่นอยู่ในกระบะ โดยสิ่งที่จะช่วยขจัดปัญหากวนใจเหล่านี้ของนักเดินทางทุกท่านให้หมดไป คือ แร็คหลังคา หนึ่งในอุปกรณ์เสริมรถกระบะสำหรับบรรทุกสัมภาระ (Cargo Carrier) ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ใช้รถกระบะนั่นเอง
ในบทความนี้ Mountain Top จะมาแนะนำรูปแบบและข้อดีข้อเสียของแร็คหลังคา ไว้เป็นแนวทางในการเลือกซื้อมาใช้ในอนาคตกัน
คุณสมบัติทั่วไปของแร็คหลังคา
แร็คหลังคาเป็นอุปกรณ์คู่ใจของเหล่านักเดินทางและนักท่องเที่ยวสายแอดเวนเจอร์ ที่ติดตั้งไว้บนหลังคารถกระบะเพื่อให้สามารถขนสัมภาระหรืออุปกรณ์ไปในที่ต่างๆ ได้ และยังมีให้เลือกหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นวัสดุ สี และดีไซน์ต่างๆ ที่ช่วยเพิ่มความสามารถให้กับรถกระบะอีกด้วย
แร็คหลังคาแบบต่างๆ ที่ใช้กันในปัจจุบัน
แบบทั่วไป (Universal): สามารถใช้กับรถได้รุ่น มีฟังก์ชันในการปรับขนาด เพื่อให้เหมาะกับความหลากหลายของประเภทของรถ
แบบที่ต้องการการเจาะ (Drill-Required): ต้องทำการเจาะหลังคาเพื่อติดตั้ง ส่งผลให้มีความทนทานและความมั่นคงสูง
แบบไม่ต้องการการเจาะ (Non-drill): ไม่จำเป็นต้องเจาะหลังคา ติดตั้งง่ายและไม่ทำลายโครงสร้างของรถ
แบบพับได้ (Foldable): สามารถพับหรือถอดได้ เก็บได้สะดวกเมื่อไม่ได้ใช้งาน
แบบพิเศษ (Specialized): ออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่เฉพาะเจาะจง เช่น แร็คหลังคาสำหรับเก็บจักรยาน เซิร์ฟบอร์ด หรืออุปกรณ์พิเศษต่างๆ
จะเลือกใช้แร็คหลังคาแบบไหน ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการและการใช้งานของแต่ละคน ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละแบบมีข้อดีและข้อเสียที่ควรพิจารณาถึงความคุ้มค่าก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ
ติดแร็คหลังคา ข้อดีมีอะไรบ้าง?
เพิ่มพื้นที่เก็บของให้มากขึ้น
การบรรทุกของบนแร็คหลังคาได้มากขึ้น เป็นคุณสมบัติหลักข้อแรกที่ทุกคนทราบกันดีอยู่แล้ว ซึ่งการเพิ่มพื้นที่จัดเก็บสัมภาระบนหลังคารถจะช่วยประหยัดพื้นที่ภายในห้องโดยสาร และกระบะหลัง
สามารถรับน้ำหนักสิ่งของได้มากขึ้น
แร็คหลังคากระบะนอกจากเพิ่มพื้นที่เก็บของมากขึ้นแล้ว ยังสามารถรับน้ำหนักของสัมภาระได้มากถึง 75 กก. อีกด้วย เรียกได้ว่าเพียงพอที่จะขนอุปกรณ์หรือสัมภาระสำหรับเดินทางไกลหรือทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย
ติดตั้งได้แบบไม่เจาะ
การติดตั้งแร็คหลังคานั้น คนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจผิดว่า จำเป็นต้องเจาะตัวรถเพื่อเชื่อมแร็คหลังคาเข้าไป ความจริงแล้วไม่จำเป็นต้องเจาะรถก็สามารถติดตั้งได้เช่นกัน ในปัจจุบันแร็คหลังคาแบบไม่เจาะจึงเริ่มเป็นที่นิยมมากกว่า เพราะไม่สร้างความเสียหายกับตัวรถนั่นเอง
ความปลอดภัยของสัมภาระ
โดยทั่วไป ตัวแร็คหลังคามีระบบล็อกด้านข้างเพื่อป้องกันการโจรกรรม จึงมั่นใจได้ว่าอุปกรณ์หรือสัมภาระที่เราล็อกไว้กับแร็คหลังคาจะไม่สูญหาย อีกทั้งตัวแร็คยังมีแถบยางกันลื่นที่ช่วยไม่ให้สัมภาระเคลื่อนที่ และยังป้องกันรอยขีดข่วนบนหลังคาที่อาจเกิดขึ้นจากการสัมภาระที่วางไว้บนแร็คหลังคาอีกด้วย
ติดแร็คหลังคา ข้อเสียมีอะไรบ้าง?
ความจำเป็นเฉพาะรุ่นกระบะ
รถบางรุ่นอาจจำเป็นต้องเจาะตัวรถหรือปรับแต่งโครงสร้างบางอย่างให้เข้ากับแร็คหลังคา เพราะรถบางรุ่นไม่ได้ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับการใช้แร็คหลังคา
ค่าใช้จ่าย
ไม่ว่าจะเป็นแร็คที่ต้องเจาะตัวรถหรือไม่เจาะก็มีค่าใช้จ่ายในส่วนที่ต่างกัน ยิ่งรถบางรุ่นที่ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ติดแร็คหลังคาก็อาจจะต้องใช้จ่ายในการปรับแต่งบางอย่างของรถเพื่อให้สามารถใช้แร็คหลังคาได้
บทความข้างต้นคงช่วยให้ทุกคนเห็นภาพกว้างๆ เกี่ยวกับแร็คหลังคารถแล้ว หากใครสนใจที่จะติดตั้งแร็คหลังคารถกระบะเพื่อเพิ่มประโยชน์ใช้สอยให้กับรถ ก็จำเป็นต้องซื้อและติดตั้งกับบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ เพื่อความปลอดภัยของสัมภาระและรถกระบะของท่าน
Moutain Top จัดจำหน่ายและรับติดตั้งแร็คหลังคารถกระบะ
บริษัทที่ได้รับการยอมรับด้านการออกแบบ และปรับแต่งอุปกรณ์เสริมรถกระบะจากแบรนด์ผู้ผลิตรถกระบะระดับโลก พร้อมทั้งจัดจำหน่ายและรับติดตั้งอุปกรณ์เสริมรถกระบะมากมาย เช่น แร็คหลังคารถกระบะ แร็คกระบะท้าย ถาดสไลด์ และแผ่นกั้นสัมภาระท้ายกระบะ เป็นต้น สินค้าของ Moutain Top ใช้ทีมวิจัยและพัฒนาจากประเทศ Denmark และ Australia ทำให้เรารู้ว่าสิ่งที่ลูกค้าต้องการคืออะไร นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้คุณสามารถมั่นใจในสินค้าของเราได้ ว่าจะสามารถป้องกันการโจรกรรมและสภาวะอากาศที่ย่ำแย่ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
สนใจชมสินค้าหรือต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับ Mountain Top ติดต่อได้ที่
Tel.: 03-326-6018
Email: [email protected]
Website: mountaintop.co.th